ผู้ตรวจประเมินระบบการจัดการมีบทบาทสำคัญในการรับรองว่าองค์กรปฏิบัติตามมาตรฐานและกฎระเบียบ ในโลกที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลก ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ต้องเผชิญกับความท้าทายและโอกาสที่เปลี่ยนแปลงไป ในบทความนี้ เราจะสำรวจว่าผู้ตรวจประเมินระบบการจัดการสามารถพัฒนาทักษะและเพิ่มความน่าเชื่อถือเพื่อคว้าโอกาสการเติบโตในสาขาของตนได้อย่างไร
การสร้างความโดดเด่น: เส้นทางสู่ความเชี่ยวชาญ
ผู้ตรวจประเมินระบบการจัดการมักจะพบว่าตัวเองต้องรับมือกับมาตรฐานและการรับรองที่หลากหลาย โดยแต่ละประเภทมีข้อกำหนดและความแตกต่างที่แตกต่างกันออกไป นี่อาจเป็นงานที่น่ากังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อองค์กรมีใบรับรองหลายใบพร้อมกัน เพื่อจัดการกับความท้าทายนี้ ผู้ตรวจประเมินสามารถสร้างความโดดเด่นตามทักษะต่าง ๆ ของตนเองได้
การสร้างความโดดเด่นที่เกี่ยวข้องกับ Qualifications ในมาตรฐานระบบการจัดการที่หลากหลาย จะช่วยให้ผู้ตรวจประเมินมีความเชี่ยวชาญและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น การขอการรับรองมาตรฐาน ISO 9001, ISO 14001, ISO 45001 และมาตรฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ความเชี่ยวชาญนี้ช่วยให้ผู้ตรวจประเมินดำเนินการตรวจสอบในระบบการจัดการต่าง ๆ สามารถปฏิบัติตามบทบาทและหน้าที่ของตนได้อย่างมีประสิทธิผลและใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การสร้างความน่าเชื่อถือ: ปัจจัยด้านความไว้วางใจ
ในภูมิทัศน์ธุรกิจที่เป็นสากลมากขึ้น ความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ผู้ตรวจประเมินไม่เพียงแต่มีแค่ทักษะด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างความน่าเชื่อถือที่ปลูกฝังความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การรับรอง Qualifications นี้ช่วยคุณสร้างความไว้วางใจนี้ได้
ผู้ตรวจประเมินที่ผ่านการรับรอง Qualifications จะแสดงให้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นต่อวิชาชีพของตน ลูกค้าและองค์กรสามารถพึ่งพาความเชี่ยวชาญของคุณเพื่อให้มั่นใจว่าปฎิบัติสอดคล้องกับมาตรฐานและข้อบังคับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ โปรแกรมการรับรอง Qualifications ต้องมีการพัฒนาทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ตรวจประเมินจะติดตามแนวโน้มอุตสาหกรรมล่าสุดและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
ตัวอย่างเช่น BSI (British Standards Institution) เสนอ Qualifications ผู้ตรวจประเมินที่ครอบคลุมมาตรฐานต่าง ๆ เช่น quality, information security, and health and safety ซึ่ง Qualifications เหล่านี้ทำให้ผู้ตรวจประเมินมีเครื่องหมายแห่งความไว้วางใจ (Mark of trust) ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการตรวจสอบและความมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
BSI Qualifications คุณวุฒิผู้ตรวจตรวจประเมิน: เส้นทางสู่ความน่าเชื่อถือ
BSI นำเสนอโปรแกรม Qualifications คุณวุฒิผู้ตรวจประเมิน ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ตรวจประเมินเพิ่มความน่าเชื่อถือและทักษะของตน โปรแกรมนี้มี 3 ระดับคือ ระดับผู้ปฏิบัติงาน ระดับมืออาชีพ และระดับมืออาชีพที่ได้รับการยอมรับ แต่ละระดับจะนำเสนอเส้นทางความก้าวหน้าสำหรับผู้ตรวจประเมินเพื่อรับความเชี่ยวชาญในการตรวจประเมินและการปรับปรุงกระบวนการ
- ระดับผู้ปฏิบัติงาน (Practitioner): ระดับเริ่มต้นนี้จะช่วยให้ผู้ตรวจประเมินมีความรู้พื้นฐานและทักษะในการปฏิบัติงานตรวจประเมิน เป็นพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้ตรวจประเมินที่เชี่ยวชาญ
- ระดับมืออาชีพ (Professional): ในขั้นตอนนี้ ผู้ตรวจประเมินจะเจาะลึกเข้าไปในเทคนิคการตรวจสประเมินและการปรับปรุงกระบวนการ พวกเขาเรียนรู้ที่จะตรวจประเมินเพื่อความสอดคล้องและประสิทธิผล ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับการตรวจประเมินมากขึ้น
- ระดับมืออาชีพที่ผ่านการรับรอง (Certified Professional): นี่คือระดับสูงสุดที่ผู้ตรวจประเมินแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการตรวจประเมินและการปรับปรุงกระบวนการ ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรองจะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาของตน โดยปลูกฝังความมั่นใจให้กับลูกค้าและนายจ้างของตน
การขับเคลื่อนประสิทธิภาพที่เหนือกว่าการปฏิบัติตามกฎระเบียบ
ผู้ตรวจประเมินจะไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้เฝ้าติดตามการปฏิบัติตามกฎระเบียบอีกต่อไป แต่ปัจจุบันมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการปรับปรุงและการเพิ่มประสิทธิผลภายในองค์กร ผู้ตรวจประเมินต้องถามตัวเองมากกว่าแค่ว่าองค์กรปฏิบัติตามข้อบังคับหรือไม่ แต่พวกเขายังต้องตั้งคำถามด้วยว่ากระบวนการที่ได้รับการตรวจประเมินสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้หรือไม่ แนวทางการเปลี่ยนแปลงนี้ก้าวข้ามขอบเขตดั้งเดิมของการตรวจประเมินการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องแทน
- การเพิ่มมูลค่าการตรวจประเมิน: สถานภาพปัจจุบันที่ท้าทาย
ผู้ตรวจประเมินที่เพิ่มมูลค่า คือ ผู้ตรวจประเมินที่นำเสนอมุมมองใหม่ ๆ ที่มีประโยชน์ในการทำงาน พวกเขาจะตั้งคำถามเช่น "กระบวนการนี้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่" หรือ "มีโอกาสที่จะปรับปรุงใดบ้างที่ยังไม่ได้ใช้หรือไม่?" พวกเขาจะไม่ได้ทำแค่การยืนยันการปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ทำเป็นประจำเท่านนั้น แต่พวกเขาจะทำสิ่งที่ก้าวไปไกลกว่า ซึ่งเป็นตัวเร่งให้เกิดประสิทธิผลด้วยการกล้าที่จะท้าทายสภาพที่เป็นอยู่และแสวงหาการปรับปรุงกระบวนการอย่างจริงจัง ผู้ตรวจประเมินที่เพิ่มมูลค่าแล้วจึงกลายเป็นส่วนที่สำคัญในความสำเร็จขององค์กร
- วงจรการตรวจประเมิน PDCA: เสาหลักของวิธีการตรวจประเมิน
ผู้ตรวจประเมินยังมีบทบาทสำคัญในวงจรการตรวจประเมิน PDCA (Plan-Do-Check-Act) ในกระบวนการตรวจประเมิน แม้ว่าการวางแผนและการปฏิบัติตามแผน (Do) ถือเป็นขั้นตอนสำคัญ แต่การทดสอบที่แท้จริงมักจะอยู่ในขั้นตอน "การตรวจสอบ (Check)" ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องมีการประเมินอย่างละเอียดว่างานได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องหรือไม่ ผู้ตรวจประเมินจะต้องกลั่นกรองข้อมูลกระบวนการ ระบุแนวโน้ม และระบุจุดที่ควรปรับปรุง
- การยกระดับผู้ตรวจประเมินเพื่อการปรับปรุงกระบวนการ
British Standards Institution (BSI) เสนอ Qualifications ผู้ตรวจประเมินเฉพาะทางที่ให้ความสำคัญกับทั้งการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการปรับปรุงกระบวนการ คุณสมบัติขั้นตอนที่ 2 ของ BSI ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ตรวจประเมินมีทักษะที่จำเป็นในการเข้าถึงการตรวจประเมินจากมุมมองของการปรับปรุงกระบวนการ คุณวุฒิ (qualification) นี้ช่วยให้ผู้ตรวจประเมินสามารถเป็นผู้นำของการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกภายในองค์กร โดยก้าวข้ามบทบาททั่วไปของผู้ตรวจประเมินที่แค่ปฏิบัติตามข้อกำหนดเท่านั้น
การเปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแนวทางปฏิบัติด้านการตรวจประเมิน โดยการตรวจประเมินจากระยะไกล การตรวจประเมินเสมือนจริง และการตรวจประเมินเชิงลึกกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ ส่งผลให้องค์กรต่าง ๆ หันมาใช้ตัวเลือกการตรวจประเมินระยะไกล นอกเหนือจากการเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ยังส่งผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ผู้ตรวจประเมินจะต้องปรับตัวได้ โดยเปิดรับเทคโนโลยีและเทคนิคสมัยใหม่เพื่อนำทางภูมิทัศน์ดิจิทัลที่กำลังพัฒนานี้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใน BSI เรากำลังเปิดรับโซลูชันเทคโนโลยีที่สมจริง ซึ่งใช้ประโยชน์จาก Augmented Reality (AR) รวมถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัย โซลูชันเหล่านี้มอบประสบการณ์การตรวจประเมินที่สะท้อนโลกแห่งความเป็นจริงอย่างใกล้ชิด แม้ว่าการตรวจประเมินจะดำเนินการจากระยะไกลก็ตาม เทคโนโลยีที่สมจริงช่วยเร่งเวลาตอบสนองการตรวจประเมิน เพิ่มความโปร่งใส และปรับปรุงการแบ่งปันข้อมูล ทำให้เป็นเครื่องมือที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ตรวจประเมินที่สำรวจขอบเขตดิจิทัล
การเป็นผู้นำและผู้ประสานงานด้านการบริหารความเสี่ยง
ผู้ตรวจประเมินมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้องค์กรก้าวผ่านความท้าทายที่ซับซ้อน งานที่ทำอยู่นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง: การระบุ การประเมิน และการจัดการความเสี่ยง บทบาทที่หลากหลายนี้ไม่ได้เป็นเพียงเกี่ยวกับการพิจารณาทางการเงินเท่านั้น ยังครอบคลุมถึงแนวทางบูรณาการที่พิจารณาแง่มุมต่าง ๆ ของการดำเนินงานขององค์กร
คุณค่าของการตรวจประเมินขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ตรวจประเมินในการระบุความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความมั่นคงและความสำเร็จขององค์กร การไม่ตรวจพบความเสี่ยงเหล่านี้อาจส่งผลร้ายแรง จึงส่งผลให้บทบาทของผู้ตรวจประเมินมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น
ประเภทของความเสี่ยง
ความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับความเสี่ยงถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ตรวจประเมิน เพื่อให้เห็นภาพรวมของความเสี่ยงทางธุรกิจที่กว้างใหญ่ จำเป็นต้องเน้นหมวดหมู่หลัก ๆ 2-3 ประเภท:
- ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์: ความเสี่ยงประเภทนี้เกี่ยวข้องกับเป้าหมายระยะยาวและกระบวนการตัดสินใจขององค์กร ตัวอย่างเช่น หากบริษัทแนะนำผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง บริษัทก็จะเสี่ยงต่อการถูกปฏิเสธจากลูกค้า ซึ่งเป็นตัวอย่างสำคัญของความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์
- ความเสี่ยงทางการเงิน: ความสำคัญของสุขภาพทางการเงินมีความชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดการระบาดใหญ่ องค์กรที่มีภาระหนี้สูงหรือกังวลเรื่องกระแสเงินสดกำลังก้าวเข้าสู่ขอบเขตความเสี่ยงทางการเงิน ซึ่งครอบคลุมแง่มุมต่างๆ เช่น บัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ และกระบวนการทางการเงินโดยรวม
- ความเสี่ยงด้านปฏิบัติการ: ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรเสียหาย การขาดแคลนแรงงาน หรือปัญหาด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น กฎระเบียบด้านสุขภาพและความปลอดภัย ความเสี่ยงในการปฏิบัติงานถือเป็นข้อกังวลสำหรับธุรกิจอย่างต่อเนื่อง บทบาทของผู้ตรวจประเมินขยายไปถึงการประเมินวิธีจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ภายในองค์กร
- ความเสี่ยงด้านชื่อเสียง: ชื่อเสียงของบริษัทนั้นประเมินค่าไม่ได้ และแม้แต่ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆก็อาจส่งผลที่ตามมาอย่างลึกซึ้ง พิจารณาบริษัทที่ทำการตลาดผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกแต่ไม่สามารถรับประกันสถานะออร์แกนิกของส่วนประกอบทั้งหมดได้ ความล้มเหลวดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล: ในยุคดิจิทัลปัจจุบัน การปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ผู้ตรวจสอบจะต้องประเมินความปลอดภัยของระบบและข้อมูล รวมถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและการละเมิดข้อมูล
การระบุและประเมินความเสี่ยง
ผู้ตรวจประเมินอาศัยแนวทางและมาตรฐานที่กำหนดไว้เพื่อระบุและประเมินความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ข้อมูลอ้างอิงที่สำคัญสองรายการในบริบทนี้คือ ISO 31000:2018 ซึ่งให้กรอบการทำงานสำหรับการบริหารความเสี่ยง และ ISO 31010:2009 ซึ่งนำเสนอเทคนิคการบริหารความเสี่ยง
มาตรฐานเหล่านี้เจาะลึกถึงแง่มุมต่าง ๆ ของการบริหารความเสี่ยง ซึ่งครอบคลุมถึงการระบุความเสี่ยง การประเมิน การบันทึก และการรายงาน ผู้ตรวจประเมินจะต้องมีความเชี่ยวชาญในเทคนิคเหล่านี้เป็นอย่างดีเพื่อร่วมหารืออย่างมีข้อมูลกับผู้บริหารระดับสูงระหว่างการตรวจประเมิน
การทำความเข้าใจความซับซ้อนของเทคนิคการบริหารความเสี่ยง เช่น การจำลองแบบมอนติคาร์โล (Monte Carlo simulation) มีความสำคัญอย่างยิ่ง หากผู้ตรวจประเมินพบคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยในระหว่างการหารือกับฝ่ายบริหาร ซึ่งอาจขัดขวางความสามารถในการตรวจประเมินเพิ่มเติมและยืนยันความสำคัญของความเสี่ยงที่เฉพาะเจาะจงได้
สำหรับผู้ตรวจประเมินระบบการจัดการ การได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการบริหารความเสี่ยงไม่ใช่แค่การเพิ่มมูลค่าแต่เป็นสิ่งจำเป็น ผู้ตรวจประเมินมักจะอาศัยข้อความและการประเมินที่จัดทำโดยผู้บริหารระดับสูงเพื่อเป็นแนวทางในการตรวจประเมิน หากไม่มีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับเทคนิคการบริหารความเสี่ยง ผู้ตรวจประเมินอาจพบว่าการเจาะลึกและการตรวจสอบความใช้ได้ของการประเมินเหล่านี้อย่างมีประสิทธิผลเป็นเรื่องยาก
นอกจากนี้ คุณวุฒิ (Qualification) เฉพาะทางในสาขาที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยง เช่น ความต่อเนื่องทางธุรกิจหรือการจัดการก๊าซเรือนกระจก ก็เริ่มมีคุณค่ามากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ มุ่งเน้นไปที่การเป็นองค์กรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ผู้ตรวจประเมินที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเหล่านี้จึงเป็นที่ต้องการอย่างมาก
โดยสรุป การสร้างความโดเด่นของทักษะผ่านการรับรองในมาตรฐานต่าง ๆ สามารถเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิผลของผู้ตรวจประเมินได้ การสร้างความน่าเชื่อถือผ่าน Qualifications ที่เป็นที่ยอมรับถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างความไว้วางใจกับลูกค้าและองค์กร ผู้ตรวจประเมินยังต้องยอมรับแนวทางการเปลี่ยนแปลงที่นอกเหนือไปจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบและมุ่งเน้นไปที่การขับเคลื่อนประสิทธิผลและประสิทธิภาพภายในองค์กร การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของแนวปฏิบัติด้านการตรวจประเมินและการนำเทคโนโลยีที่สมจริงมาใช้กำลังเปลี่ยนรูปแบบวิชาชีพ ทำให้ผู้ตรวจสอบต้องปรับตัวและก้าวนำหน้าอยู่เสมอ นอกจากนี้ การจัดการความเสี่ยงในประเภทต่าง ๆ ตั้งแต่ความเสี่ยงด้านกลยุทธ์และการเงิน ไปจนถึงความเสี่ยงด้านการปฏิบัติงานและชื่อเสียง ตอกย้ำบทบาทที่สำคัญของผู้ตรวจประเมินในการปกป้องความสำเร็จขององค์กร เนื่องจากความต้องการผู้ตรวจประเมินที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงยังคงเพิ่มขึ้น ผู้ตรวจประเมินที่ลงทุนในการได้รับทักษะเหล่านี้จะมีตำแหน่งที่ดีในการปลดล็อกโอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ในสายอาชีพของตน
หากไม่แน่ใจว่า Qualifications แบบใดที่เหมาะกับคุณ พูดคุยกับที่ปรึกษาการฝึกอบรมของเราวันนี้!